วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สาปรัก 11 Nc





นภนต์นั่งลงเคียงข้างบนเตียงกว้างแล้วจับร่างชลันธรให้นั่งพิงอกตน ก่อนจะร่ายมนต์นำถ้วยยาที่ได้จากการผสมน้ำทับทิบสุบรรณทั้งสองถ้วยออกมา แล้วจัดแจงยกดื่มเข้าไปในคราวเดียวถ้วยหนึ่ง ส่วนถ้วยที่เหลือเมื่อพิจารณาดูแล้วหากให้ชลันธรดื่มเอง อาจจะหกจนต้องเสียยา การขับพิษนี้คงต้องล้มเหลว... “ลันเดี๋ยวพี่จะป้อนยาขับพิษนะครับ...อย่างป้วนทิ้งล่ะ” นภนต์จำต้องดื่มเข้าไปอีกถ้วยแต่กลั้นกลืนไว้ เทพหนุ่มโน้มใบหน้าลงแล้วจับปลายคางของคนที่แนบอกให้หันมา นภนต์ประกบริมฝีปากลงที่ริมฝีปากนิ่มแล้วสอดลิ้นเปิดริมฝีปากส่งยาวิเศษไหลผ่านลงเข้าโพรงปากให้ชลันธรได้ดื่ม
“ฮืม.ม…” เสียงครางเบาในลำคอ กายโปร่งกลืนยาที่นภนต์ได้ป้อนให้จนหมด แต่กระนั้นนภนต์กลับมิยอมถอนปากออกยังคงหยอกเหย้าตวัดลิ้นชลันธรที่เกี่ยวลิ้นรับอีกคนอย่างเชื้อเชิญ  ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเริ่มการนี้จะหยุดอธิบายให้คนงามฟังกลางครันวิธีขับพิษคงมิเป็นการดี  นภนต์บดเบียดริมฝีปากแนบชิดยิ่งกว่าเก่าจนไม่มีระยะห่างให้อากาศแทรกผ่านเข้าออก  มือหนาก็ปลดกระดุมเสื้อสีขาวเปื้อนเลือดและกางเกงของคนที่นั่งพิงอกแล้วค่อยๆ ถอดออก แต่มันชักช้าไม่ทันใจชลันธรจึงช่วยถอดอีกแรง ให้เสื้อผ้าน่ารำคาญนี้พ้นๆ จากกายไปให้ไกล เมื่อไร้อาภรณ์ใดๆ ก็เผยให้เห็นผิวกายเนียนแดงก่ำจากพิษนาคา...
หากเป็นเมื่อก่อนชลันธรคงขัดขืนในสิ่งที่นภนต์กระทำล่วงล้ำเช่นนี้ไปแล้ว ด้วยหวงเนื้อหวงกาย ถึงจะเคยให้นภนต์สัมผัสบ้างเป็นครั้งคราวก็ตาม แต่ผลพวงจากพิษราคะร้ายที่กุมใจ ชลันธรจึงมิได้ขัดขืนในสิ่งที่นภนต์กำลังกระทำการล่วงเกิน...กลับปล่อยกายปล่อยใจให้คนเทพผู้มีปีกตักตวงความงามจากกายตน  
นภนต์ดูดปลายลิ้นชื้นแล้วถอนจูบ ชลันธรมองด้วยสายตาที่ฉ่ำเยิ้มแสนยั่วกามรมณ์  ไม่ว่าตอนนี้จะกระทำการใดยามนี้ช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก นภนต์อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มแดงระเรื่อลงฟอดใหญ่ แต่ชลันธรที่ต้องพิษร้ายไม่ได้ต้องการเพียงแค่นี้ นภนต์เองก็รับรู้ได้ด้วยกายบางนั่งบดเบียดสะโพกกลมกับกลางกาย ไหนจะพยายามโน้มหน้าของตนลงก้มต่ำหมายจะจูบต่อ
“ฮื้อ.อ…อืม…พี่นภนต์ช่วยลันที ลันร้อน  ร้อนเหลือเกิน...” เสียงครางหวานร้องระคนคำอ้อนเชื้อเชิญ นภนต์ไม่ยอมจูบแต่กลับก้มลงซุกไซร้สูดดมซอกคอขาวอย่างเอาแต่ใจ ริมฝีปากหนาดูดเม้มข้างคอระหงอย่างหื่นกระหาย  บังเกิดร่องรอยสีกลีบกุหลาบรักนับไม่ถ้วนทั่วทั้งลำคอและลาดไหล่เนียน พร้อมกับมือหนาสวมกอดเอวบางไว้แนบแน่น  อีกข้างคอยบดคลึงเม็ดพลายยอดอกสีชมพูหวาน ให้พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำจนแข็งขืน  ชลันธรถูกปลุกเร้าอารมณ์สวาท ได้แต่แอ่นอกรับความเสียวกระสันที่นภนต์มอบให้ จนกายบางอ่อนยวบเคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำเทพท้องนภา
“อ่า.า..พี่นภนต์..อืม.ม…อ๊า…ฮึก...ฮ้า.า...ช่วยลันด้วย ลันไม่ไหวแล้ว...” ร่างบางวอนขอผู้มีที่ลมหายใจติดขัดรดต้นคอเขาให้ช่วยเหลือปลดปล่อยอารมณ์อยากตัณหานี้  อารมณ์ใคร่ที่ค่อยๆ ทะยานไต่ระดับขึ้นของมนุษย์น้อยในอ้อมกอดจนมากล้น เพียงปลายนิ้วที่ยังสะกิดเล่นเมล็ดบัวบนยอดอกกายบางที่ไร้เครื่องนุ่งห่ม  หรือยามที่มือสากลูบผ่านหน้าท้องที่แบนราบลงไปจนถึงส่วนอ่อนไหวอดีตเทพสมุทร  ร่างบางนั้นดิ้นเร้าครางเสียงกระเส่าขับท่าทางที่แสนยั่วแต่งดงามราวนางกินรีเริงระบำให้ได้ยล
“เสียว…อืม.ม…อ่า.า…อ่ะ เสียวเหลือเกิน” หากไม่เสียวนั่นสิถึงจะแปลก ในเมื่อนภนต์เริ่มนวดคลึงส่วนเนื้อที่เมื่อครู่ยังนิ่มอ่อน ให้แข็งขันอย่างช้าๆ แต่หนักหน่วง สร้างความกระสันรักจนร่างบางสั่นสะท้านมิหยุดหย่อน แกนกายเล็กแข็งขืนขึ้นสู้มือหยาบ นภนต์เองก็ไม่ความคิดที่จะหยุดเพียงเท่านี้ เทวดาหนุ่มรูดรั้งขยับแกนกายของชลันธรขึ้นลงอย่างช้าๆ
“อ่ะ…อ่า..า..อ๊ะ…อื้อ..” ชลันธรปล่อยให้นภนต์ทำตามอำเภอใจ ด้วยหมายระบายแรงใคร่ที่มีมากล้น กายงามเงยหน้าขึ้นบรรจงจรดริมฝีปากดูดเม้มต้นคอแกร่งเทพหนุ่มจนเกิดจ้ำรอยสีรักมิต่างกัน  ความอึดอัดจากความต้องการกันและกันมากขึ้นเข้าครอบงำทั้งสองให้ดำดึ่งสู่ห่วงแห่งกามรมย์ หยาดน้ำใสสีม่วงก็ปริ่มออกมาจากปลายแก่นกายเล็ก
“ลันครับ…ชันเข่าตั้งขึ้นมาให้พี่หน่อยสิครับคนดี”
เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู ราวสะกดใจให้ชลันธรทำตามอย่างว่าง่าย ยามนี้หัวใจนั้นเตลิดไกลไร้เสียงพูด ขาเรียวงามยกตั้งชันเข่าขึ้นและถูกหัตถาจับแยกออก เผยเห็นบุพผางามที่ยังมิเคยมีผู้ใดได้แตะต้อง นภนต์ใช้มัชฌิมา(นิ้วกลาง)ป้ายหยาดน้ำใสของชลันธร ลงลูบวนตามรอยจีบของปากทางรักสีสวยก่อนจะสอดแทรกลิ้นชื้นลงเข้าไปทีละนิดอย่างไม่รีบร้อน…
“อ้า.......อ้า.........อ้า.........” คนงามเปล่งเสียงหวานครางระงมด้วยรับสัมผัสจากปลายลิ้นที่แปลกใหม่ กายบางแทบหลอมละลายดั่งไขผึ้งเมื่อต้องความร้อน  ด้วยเนื้องามที่นภนต์ใคร่ใฝ่ฝันมานับร้อยๆ ปีนั้นอยู่ตรงหน้า แล้วมีหรือจะไม่กระตือรือร้นตักตวง ยิ่งยามนี้กายงามกำลังขับความงามอย่างถึงที่สุด ฉุดกระตุกเกร็งจิกปลายเท้าเป็นระยะ เมื่อปลายลิ้นเร่งเร้าสัมผัสจุดเร้นลับที่อ่อนไหว แล้วส่งดัชนีร้ายดันเข้าไปสัมผัสภายใน ...ช่างคับแน่น... คือ สิ่งแรกที่นภนต์รู้สึกได้… มันช่างคับแน่นเสียจนนภนต์อดคิดไม่ได้ว่าส่วนนี้จะสามารถรองรับความใหญ่โตของตนได้  นิ้วมือจึงเพิ่มจำนวนจาก 1 เป็น 2 เร่งขยับ และปรับเพิ่มเข้าไปอีกทีละนิ้วเพื่อขยายปากช่องทางให้กว้างขึ้น 
“อ๊า...ไม่ ไม่...” นิ้วร้ายเร่งกระแทกเข้าช่องทาง ถึงจะครวญครางแต่กลับร้องห้ามเสียอย่างนั้น แม้ช่องทางจะบีบรัดนิ้วเป็นสัญญาณบ่งบอกความพร้อมของร่างโปร่งก็ตาม...
“ไม่อะไรหรือ คนดี ลันไม่พอใจหรือที่พี่ทำ...อดทนหน่อยเถิดพี่กำลังรักษาลัน” ด้วยสงสัยเสียงห้ามปราม แต่นิ้วร้ายก็ยังมิหมายที่จะหยุดกระทำ
“ไม่ครับ  ไม่เอานิ้ว...” ถึงยามนี้นภาเทพจึงเข้าใจแล้วว่าชลันธร คงอยากให้ส่วนที่แกร่งที่สุดในกายเขาได้เข้าไปในช่องทางที่นิ้วมือกำลังผลุบเข้าออกอยู่เป็นแน่  
“ใจร้อนเสียจริงคนดี ...ได้...พี่จะทำให้ลันพอใจบัดเดี๋ยวนี้...” นภนต์ถอนนิ้วออกแล้วจัดแจงท่าทางของชลันธร ยันกายบางให้นอนคว่ำราบลงกับเตียง แขนแกร่งสอดรั้งเอวบางตั้งขึ้นให้สะโพกกลมนั้นลอยเด่นชัด  นภนต์ปลดเปลื้องอาภรณ์ที่แสนรุ่มร่ามท่อนล่างออก เผยแท่งร้อนที่พร้อมรบ เมื่อจดจ่อที่ปากทางแล้วจึงค่อยๆ ดันสอดประสานเข้าภายใน ถึงแม้ชลันธรจะโดนพิษร้ายให้เกิดกำหนัดแต่ชลันธรก็ยังบริสุทธิ์ไร้ใครเคยล่วงเกินจุดนี้ ดังนั้นนภนต์จึงระวังให้ชลันธรเจ็บน้อยที่สุด
“อ่ะ…อ๊า.า….เจ็บ!!!...” เสียงร้องว่าเจ็บก็มาพร้อมหยาดน้ำตาใสคลอเบ้าเมื่อความใหญ่โตได้ทะลุผ่านเข้าไป นภนต์หยุดนิ่งไม่ขยับครู่หนึ่งเพื่อให้ร่างกายของคนรักได้ปรับตัว ถึงคนที่ตั้งรับแกนกายที่ใหญ่โตจะเคยเห็นและเคยสัมผัสมันมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เคยจะให้เข้ามาในกายเขาเช่นนี้  ครั้งแรกกับคนคนนี้ไม่ว่าความเจ็บปวดจะมากมายขนาดไหนก็แสนเป็นสุข...
“ลัน…ผ่อนคลายนะครับ อย่าไปคิดว่ามันเจ็บนะ..เชื่อใจพี่นะ…ลัน” กายหนาก้มลงจรดริมฝีปากจูบพรมแผ่นหลังหวังปลอบโยน นภนต์ทั้งจูบและพูดปลอบ ชลันธรก็ปล่อยกายใจให้ไปตามอารมณ์โดยไม่คิดว่ามันเจ็บของที่นภนต์พูด  ครั้นเทพหนุ่มเห็นสีหน้าไร้กังวลนั้นก็ค่อยๆ เริ่มขยับโยกเข้าออกไปในช่องทางหฤหรรษ์
“อ่า.า…พี่นภนต์ อ่ะ....อ๊ะ..อื้อ.อ…” 
“อืม.ม…ลัน”
เพียงขยับเข้าออกเบาๆ ก็เรียกเสียงครางให้กับทั้งสองได้ ในกายนั้นทั้งลื่นทั้งอุ่น จวนทำให้นภนต์แทบคลั่ง เช่นเดียวกับชลันธรที่แม้จะเจ็บจุก แต่กลับสุขสันต์กับบทบาทและลีลารักที่นภนต์กระแทกกระทั้นเข้ามาในกาย พิษบ้าประหลาดอะไรทำไมต้องรักษาด้วยวิธีการเยี่ยงนี้...
ทะเลคลั่งมีหรือจะฤาอิ่ม ไม่เพียงแรงกระแทกกระทั้นอย่างเดียวที่ชลันธรได้รับ ฝ่ามือหนาที่ลูบไล้ไปตามแผ่นอกแล้วเลื่อนลงกอบกุมส่วนอ่อนไหวนั้นก็ยิ่งเร้าอารมณ์มากขึ้นไปอีก จนอดไม่ได้เลยที่จะส่งเสียงหน้าอายออกมาลั่นคูหาเพชร
อารมณ์ตัณหาที่มีอยู่ของเทพเวหาถูกปลุกเร้าด้วยเสียงครางหวาน สติเตลิดไกลพาใจที่โชกโชนราวกับเพลิงไฟเผาไหม้ไพรวัลย์ ให้เร่งรัดขยับกายเร็วขึ้น...ไม่เจ็บ แต่เสียวซ่าน...คนที่ถูกกระทำได้แต่ระบายความรู้สึกนั้นผ่ายนิ้วเรียวจิกขยุ้มภูษาที่ปูเตียงจนยับยู่ยี่ไม่เหลือเค้าเดิมที่เคยงดงาม
“พี่นภนต์…อ่ะ..อ่า.า..พี่นภนต์..อือ..อ…” คนงามเอ่ยชื่อคนรัก พอได้ฟังเทพหนุ่มก็อยากจะเห็นใบหน้าของชลันธรยิ่งนัก ในยามปกติก็ว่างามแล้ว ตอนที่เรียกนามตนนี้ในนาทีนี้จะเป็นเช่นไร นภนต์ถอนกายที่แสนอึดอัดนั้นออก  มือหนาดันคนใต้ร่างให้พลิกกายนอนหงาย  ขาสวยถูกจับยกขึ้นมา ก่อนลากไล่ด้วยปลายลิ้น ผ่านปานดำรูปนาคาขึ้นมาจนถึงท่อนขาอ่อน นภนต์สร้างสัญลักษณ์ด้วยรอยจูบนับสิบไว้กับขาทั้งสองข้าง หากเป็นตอนสติคนงามสติยังดี คงสร้างความปั่นป่วนใจให้กับชลันธรไม่น้อย เพราะต้องปกปิดรอยรักเหล่านี้ไม่กล้าให้ใครต่อใครได้เห็น ไม่รู้สิ่งใดเข้าดลใจ นภนต์คว้าเอาหลังเท้างามเข้ามาใกล้ แล้วก้มจรดพรมจูบลงปลายเท้าอย่างทะนุถนอม แล้วเป่าลมปากอย่างเผ่าเบา 
“เพี้ยง...พี่จูบให้แล้ว หายเจ็บหายป่วยไวๆ นะครับ...” ปลอบขวัญคนงามราวเด็กน้อยวิ่งหกล้ม จะมีก็แต่เพียงได้ยิ้มเล็กๆ นั้นกลับมาให้ชื่นใจ  เทพหนุ่มวางเรียวขาสวยพาดไว้ที่ลาดไหล่แกร่งของตน ก่อนจะดันส่วนที่เคยถอนออกมาให้เชื่อมติดกายแนบชิดกันอีกครั้ง
“ซี๊ด..ด….อืม..ม…ลัน”
“อ๊า.า..ฮ้า.า..อืม.ม….พี่นภนต์”
ทั้งสองต่างครวญครางไปด้วยชื่อของอีกฝ่าย พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของกันและกัน นภนต์เร่งเร้าขยับกาย เข้าออกอย่างต่อเนื่อง มือนิ่มของชลันธรก็ปัดป่ายไปมาและโอบกอดที่แผ่นหลังกว้าง เม็ดเหงื่อชื้นผุดพรายขึ้นริมไรเส้นผม จนนภนต์ต้องก้มลงจูบซับแล้วรับรอยยิ้มจากชลันธร เทวดาหนุ่มอดไม่ได้ที่จะมอบจูบแสนหวานให้เป็นรางวัล
“อ่า.า…อ่ะ…อ่า.า…อ่า…พี่นภนต์..อื้อ..อ…พี่นภนต์..อีกนิด…อ่า.า…”
“ครับ…ลัน…ฮืม.ม..”
ครวญเสียงดั่งบทเพลงรัก และไม่มีที่ท่าว่าจะบรรเลงจบ ยังคงดำเนินต่อไปตามท่วงทำนองที่หนักหน่วงเอาการ เสียงเตียงไม้สลักขยับโยกไหวไปด้วยแรงขับเคลื่อน  และแล้วท่อนสุดท้ายของบทเพลงก็มาถึง นภนต์เร่งบรรเลงไม่หยุดจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันเคล้าคลอกับเสียงครางกระเส่า  บทเพลงนี้จบลงด้วยน้ำรักขาวปะปนด้วยสีม่วงดำ ก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากกายของร่างบาง ตามด้วยน้ำรักของนภนต์ที่เต็มไปด้วยยาแก้พิษจากผลทับทิมสุบรรณ หลั่งเข้าภายในกายชลันธร  เพียงแค่อึดใจรูปรอยนาคาสีดำที่เรียวขาขาวก็ค่อยๆ เริ่มมีสีจางลงจนนภนต์สังเกตได้
‘เป็นเยี่ยงนี้นี่เอง…หากร่วมเสพสังวาท พิษในกายของชลันธรจะถูกขับออก รวมทั้งยาในกายเราจะเข้าแทรกช่วยรักษา’

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น