วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สาปรัก 24 NC

ใจชายฮึกเหิมด้วยกำหนัด ทำให้รพีพงศ์ลืมความเจ็บปวดจากบาดแผลไปเสียสิ้น เมื่อมิอาจห้ามรพีพงศ์ให้หยุดการกระทำนี้ได้... ไม่สิ...นาคินทร์มิได้ห้ามปราม เพราะใจนั้นอยากให้รพีพงศ์สัมผัสและจับต้องตนจะแย่ จึงปล่อยกายให้หัวใจนำพา เริ่มด้วยแอ่นอกเข้าหา ท่อนล่างก็ขยับเบียดสะโพกเข้าถูกับแก่นกายไปมาผ่านภูษาที่แทรกกั้น ก่อนจะดึงภูษาแสนรุ่มร่ามให้ออกไปแล้วจับแก่นกายตนและรพีพงศ์เอาไว้ในมือเดียว
“อ่า..อ่ะ..อ่า….” มือนิ่มขยับรูดรั้งอย่างช้าๆ แล้วเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามปลายลิ้นที่คอยตวัดรัวยอดอก 
“อ่า..า…ดีเหลือเกิน” นาคินทร์ร้องบอกมือก็เร่งขยับจนมีน้ำสีใสปริ่มออกมาเปรอะเปื้อนมือ นาคินทร์จึงหยุดปลุกปั่นจนรพีพงศ์ที่ค้างคาเงยหน้าขึ้นมอง พบว่านาคินทร์กำลังลากลิ้นเลียน้ำสีใสตามนิ้วมือทั้งห้าพร้อมมองหน้ารพีพงศ์ไปด้วย
‘เป็นเพียงเชลย…คิดจะยั่วยวนข้าให้ลุ่มหลงไปถึงไหน…คืนนี้เห็นทีข้าจักต้องทำโทษ เชลยอย่างเจ้าหนักๆ เสียแล้ว’
คิดได้ดังนั้นรพีพงศ์ดันกายนาคินทร์ให้นอนราบ พิศเพ่งกายงามที่เคยสัมผัสด้วยกำลังเมื่อกาลก่อน เหตุใดเล่ากายนาคน้อยถึงช่างยั่วยวนชวนให้ลุ่มหลงในกามเช่นนี้ ยิ่งต้องแสงจันทร์แม้เพียงน้อยนิดก็ยังงดงามเสียจนรพีพงศ์แทบอดทนไม่ไหว
“ข้ายินดีที่จักเป็นเชลยของท่านไปตลอดกาล” นาคินทร์เองรู้ว่าคนบนร่างคิดเช่นไรจึงใช้นิ้วเรียวลูบไล้สันกราม ทั้งใช้คำพูดเป็นการเชิญชวนให้รพีพงศ์เร่งตีตราตน
“ถึงเจ้าไม่ยินดี หากข้านี้จักทำให้เจ้าเป็น...เชลยของข้า...อยู่ดี” รพีพงศ์จับขาเรียวให้แยกออกแล้วลูบไล้ไปตามขาอ่อนลงมาถึงบั้นท้ายนิ่ม ลูบวนอยู่อย่างนั้นพร้อมกับใช้ สายตาจ้องมองใบหน้าเหยเกแสนเย้าอารมณ์ของคนใต้ร่างไปด้วย ยิ่งตอนที่ตนแกล้งนวดเค้นให้ปลายนิ้วสัมผัสช่องทางรัก กายนาคินทร์นั้นสั่นระริกด้วยปลายเท้าจิกกับพื้นหินสร้างความสุขใจให้กับรพีพงศ์ยิ่งนัก
“ทะ..ท่านรพีพงศ์…อย่าแกล้งข้า” นาคินทร์ร้องขอแต่ไม่เป็นผล รพีพงศ์ละมือข้างหนึ่งที่ขย้ำเนื้อนวลมาใช้เพียงนิ้วลูบวนตามรอยจีบสีสด
“อึก..อ๊า….” เพียงนิ้วเดียวที่ชำแรกเข้าไป นาคินทร์กลับรู้สึกอึดอัดปนหน่วง…แต่ดีเหลือเกิน ดีเสียจนปั่นป่วนวาบหวิวอยู่ในช่องท้อง แม้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในการร่วมรัก แต่สำหรับนาคินทร์นั้นห่างหายเรื่องแบบนี้มาได้สักพัก พอได้กลับมาถูกเร้าสัมผัสอีกครา ก็เหมือนตนได้รับประสบการณ์ที่เร้าร้อนนี้อีกครั้ง
“อ่ะ..อ่า…อ่า…” นาคินทร์ครวญครางยามรพีพงศ์ขยับนิ้วเข้าออกเนิบนาบ ไหนจะเพิ่มนิ้วหมุนวนในช่องทางให้พร้อมที่จะรองรับความใหญ่โตที่มีมากกว่านิ้วมือหลายเท่านี่อีก รพีพงศ์ไม่ต้องการใช้ความรุนแรงกับนาคินทร์ดั่งที่ตนเคยได้ทำเมื่อครั้งก่อน เทพหนุ่มจึงตั้งอกตั้งใจค่อยๆ มอบความสุขเสียจนนาคินทร์ดิ้นพล่าน
“อื้อ..ท่านรพีพงศ์…ข้า…อึก.อ่า..” เอ่ยมาเพียงเท่านี้ ผู้ถูกเรียกขานรู้ทันทีว่านาคน้อยต้องการอันใด ยิ่งผนังภายในบีบรัดนิ้วก็ยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่คิด รพีพงศ์จึงดึงนิ้วออกโดยพลันทำให้สะโพกแน่นยกลอยขึ้นมาตามนิ้วไปด้วย เพราะเห็นว่าถึงกาลอันสมควรแล้วจึงจับแก่นกายร้อนจ่อที่ปากทาง หากมิได้เสือกแทรกเข้าไปภายในเนื้อนุ่ม รพีพงศ์กลับทำเพียงถูไถไปตามร่องบั้นท้ายเท่านั้น
“อื้อ..ท่านใจร้าย..อ่า.ใจร้าย…” นาคินทร์ตัดพ้อเพราะโดนแกล้ง รพีพงศ์ส่ายหน้าให้กับความกระเง่ากระงอดที่ดูแล้วรู้สึกเอ็นดูจนอยากจะแกล้งหนักๆ
“นาคินทร์กอดข้าสิแล้วข้าจะทำในสิ่งที่เจ้าต้องการ” รพีพงศ์เอ่ยกระซิบข้างใบหูนิ่มเสียงแหบพร่า ช่างน่าขันนักแกล้งเขาแต่ตนนั้นทรมานเสียได้ นาคินทร์รีบทำตามไม่คิดขัดใจ รีบลุกขึ้นเอนหลังไว้กับผนังถ้ำแล้วใช้แขนทั้งสองข้างกอดร่างสูงแน่น เมื่อนาคินทร์กอดรพีพงศ์แล้ว บุตรแห่งทินกรก็ใช้แขนทั้งสองค้ำยันผนังถ้ำเป็นการกักตัวนาคินไว้ ตามด้วยแทรกแท่งร้อนเข้าไปในกายบางทีละนิดเพื่อที่นาคินทร์จะได้ไม่เจ็บมาก
“อ่า.า…นาคินทร์..เจ้าเจ็บหรือไม่เล่า”
“อ่ะ.…อ่า...ท่าน..ท่านรพีพงศ์..ข้าเจ็บเพียงเล็กน้อยท่านอย่ากังวลเลย”
…‘แม้จักเจ็บกว่านี้ข้านั้นก็เป็นสุข ในเมื่อความเจ็บนี้มันเป็นเครื่องยืนยันว่าข้านั้นเป็นของท่าน’…
พอผสานกายเข้าไปจนสุดแล้วรพีพงศ์รอให้ร่างกายของนาคินทร์นั้นปรับตัวให้คุ้นชินก่อน จึงเริ่มขยับโยก ให้แก่นกายใหญ่เสียดสีกับเนื้อภายแสนร้อนผ่าวกระตุ้นอารมณ์ดิบในตัวรพีพงศ์ยิ่งพลุ่งพล่าน พอๆ กับหยาดเหงื่อที่ผุดพรายอาบร่างทั้งสองไม่ต่างจากหยดน้ำ
‘จุ๊บ..จุ๊บ’ ร่างสูงโน้มสร้างรอยราคีตีตราตามเนินไหล่และเนินอกราวกับต้องการให้ใครที่มาเห็นจักได้รู้ว่านาคินทร์เป็นของตนเพียงผู้เดียว ด้านนาคินทร์เองไม่ยอมให้รพีพงศ์ทิ้งร่องรอยเพียงฝ่ายเดียว ตนนั้นได้ฝากรอยข่วนไปทั่วทั้งแผ่นอกกว้างเป็นทางยาวเช่นกัน
“อ่า...อ่ะ..อ่า…อ๊ะ..” นาคินทร์ครางกระเส่าร่างกายสั่นโยกไปตามแรงกระแทก
“อืม..ม…ข้างในเจ้าบีบรัดข้าเสียจริง” กล่าวชมคนงามที่บีบรัดแกนกายอย่างต่อเนื่องจนรพีพงศ์อยากปลดปล่อยเสียเดี๋ยวนั้น
“ระ…แรงอีกได้หรือไม่..อื้อ..” 
ไม่ว่านาคินทร์ขอร้องสิ่งใด ทุกครารพีพงศ์มักจะแกล้งให้ขัดใจ แต่เห็นทีเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องเดียวที่เทพหนุ่มละเว้น ไว้ ในเมื่อคนงามขอให้ทำรักแรงๆ มีหรือจะไม่สนองให้ รพีพงศ์กระแทกกระทั้นแก่นกายหนักหน่วงเสียลืมความเจ็บจากแผลช่วงเอวของตนเสียสนิท
“อือ...นาคินทร์”
“ท่านรพีพงศ์ตรงนั้น..อ่า..ตรงนั้น..อื้อ..ลึก..ลึกไปแล้ว” 
“อ่า…เรียกข้าว่าท่านพี่สิ..อืม...นาคินทร์เรียกข้าว่า...ท่านพี่” ไม่รู้สิ่งใดดลใจให้รพีพงศ์อยากฟังคนงามเอ่ยเรียกตนด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไป
“ท่านพี่รพีพงศ์…อ่า…ท่านพี่..อ่ะ..ท่านพี่รพีพงศ์” นับว่าคุ้มที่เอ่ยขอ เสียงหวานเรียกตนว่าพี่ทำให้รพีพงศ์มีแรงฮึดโหมไฟราคะผ่านการขยับแก่นกายเข้าออกจนนาคินทร์สุขล้นกับสิ่งที่รพีพงศ์มอบให้
“พี่รพีพงศ์…ข้าจะไม่ไหวแล้ว..อื้อ..”
“อดทนอีกนิด..อ่า…ไม่นานแล้ว…อ่า”
“อ๊า!!”
สิ้นเสียงครางแสนสัปดลของนาคินทร์ หยาดน้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยเปรอะเปื้อนหน้าท้องราบของตนพร้อมกับรพีพงศ์ที่มอบไฟรักเข้าไปในกายจนนาคินทร์รู้สึกร้อนวาบมากกว่าอุ่น  
“พอหรือยัง...นาคินทร์...” รพีพงศ์เอ่ยถาม
“พอแล้ว...ข้าเหนื่อย...”  นาคินทร์ตอบไปอย่างแผ่วเบาเพราะ ศึกสวาทเมื่อครู่นั้นทำเอาเรี่ยวแรงหดหาย ทำเอาดวงตาจะปิดเสียให้ได้ 
แต่...เมื่อได้ใคร่แล้วมีหรือครั้งเดียวจะเพียงพอ ไฟแรงกำหนัดเทพหนุ่มนั้นเหมือนโคถึกที่กำลังคึกลุกโชน 
“ข้าขออีกครั้งหนึ่งได้หรือไม่...” นาคินทร์มิทันจะได้ตอบอะไร รพีพงศ์ก็เริ่มปลุกเร้าให้นาคเชลยในมีอารมณ์ร่วมกับตนอีกครั้ง นำพาให้จิตดำดิ่งสู่ห่วงกามตัณหา ดั่งภาพเมื่อครู่ที่ฉายซ้ำย้อนไปมาวนเวียน จะพลัดเปลี่ยนไปบ้างก็ช่วงที่นาคินทร์ขึ้นไปอยู่ด้านบนแล้วนั่งทับกลางกายรพีพงศ์ขึ้นลงอย่างเอาแต่ใจ

สาปรัก 23 NC

…‘ใครเล่าจะปล่อยให้เจ้าร้องห้ามพี่’… นภนต์ปิดปากคนรักด้วยริมฝีปากตนเอง เสียงที่ร้องโวยวายเมื่อครู่ถูกดูดกลืนไปพร้อมกับปลายลิ้นเล็กจนชลันธรอ่อนระทวยเผยอปากต้อนรับให้นภนต์รุกใช้ลิ้นสำรวจกวาดเสบียงแสนหวาน
โอษฐ์หยักนั้นคอยพร่ำจูบ หัตถาเริ่มขยับเข้าสอดลูบไล้เอวคอดขึ้นไปจับหมับที่แผ่นอกแล้วนวดเค้นแผ่วเบาปลุกปั่นอารมณ์ให้ชลันธรพร้อมร่วมรบในสมรภูมิรักนี้
“ฮื้ม…” ชลันธรครางในลำคอพร้อมกับใช้กำปั้นน้อยๆทุบไหล่ร่างสูงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าขอสงบศึกระหว่างชิวหาชั่วคราว นภนต์เองยอมถอยกำลังเป็นอย่างดีแต่อย่างไรเสียก็มิวายประทับริมฝีปากซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นการส่งท้าย
“ท่านพี่..อือ…อย่าใช้มือจับตรงนั้น..อ่ะ…” พอริมฝีปากเป็นอิสระชลันธรจึงร้องห้ามไม่ให้มือแสนซุกซนเล่นกับยอดอกเมล็ดบัวสีหวาน นภนต์ผละมือออกจนชลันธรยังนึกสงสัยไม่ใช่ว่าไม่ดีแต่…นภนต์นั้นไม่น่าจะรามือโดยง่ายเช่นนี้
“ท่านพี่..จะทำอันใด…ทะ..ท่านพี่..อ๊า…” นภนต์รามือแต่กลับก้มลงใช้ลิ้นตวัดเลียยอดอกทั้งสองสลับกันผ่านผ้าผืนบางที่ปกปิดจนชลันธรครางเสียงหวาน ครั้นใช้มือผลักไสก็กลับไร้เรี่ยวแรง ไหนจะเป็นร่างกายที่ไม่รักดีแทนที่จะดิ้นหนีกลับขยับเข้าหาจนแนบชิดไร้ที่ว่างให้อากาศแทรกผ่าน
เมื่อเห็นว่าคนรักพร้อมสู้ศึกนภนต์จึงปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ปกปิดกายของตนเองและชลันธรออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็นั่งพิงเสาเตียงแล้วดึงร่างบางมาโถมทับตนจนสัมผัสถึงไอร้อนที่แผ่ซ่าน
“ชลันธร…น้องช่วยใช้ปากน้องตีดาบให้พี่ได้ไหมเล่า” ไม่พูดเปล่านภนต์จับข้อมือเล็กให้มาจับดาบขนาดใหญ่ตรงกลางกาย ชลันธรเองแม้จะกระดากอายในเรื่องแบบนี้หากรู้ดีว่านภนต์นี้หมายถึงอะไร
“ท่านพี่นภนต์…ข้า….ข้ามิกล้า” แก้มขาวมีเลือดฝาดแดงก่ำ พอจะดึงมือกลับนภนต์นั้นก็ยังบังคับให้มือตนจับดาบร้อนอยู่ดี
“ลองดูเถิดนะคนดี…ถือว่าช่วยพี่สักครา” นภนต์เอ่ยหว่านล้อมขอร้องเสียงกระเส่า แววตาอ้อนวอนชวนให้ชลันธรใจอ่อนเสียจนได้ คนงานพยักหน้ารับแล้วขยับกายเลื่อนลงมามือข้างหนึ่งจับดาบไว้ให้มั่นแล้วจึงค่อยใช้ลิ้นเลียวนจากปลายดาบไล่ลงมาช้าๆ ลากขึ้นลงแผ่วเบาด้วยความที่ไม่ค่อยจักชำนาญ
“อืม…ชลันธร” นภนต์พึงพอใจแม้อีกฝ่ายจะไม่ประสีประสานัก ชลันธรเองยิ่งได้ยินเสียงร้องรวมถึงมือหนาที่คอยลูบผมตนด้วยความรักก็ใจชื้นขึ้นและกล้าที่ใช้ปากเข้าครอบดาบทีละนิด…ทีละนิด
“อืม….ดีมาก” นภนต์มองชลันธรที่คอยปลุกปั่นตีดาบให้แข็งขืนขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากห่อรัดเล็กน้อยทั้งใช้ลิ้นคอยเย้าไปด้วยในระหว่างที่ขยับรูดขึ้นลง นภนต์เองก็มิได้จะรับความสุขเพียงอย่างเดียว ร่างสูงใช้ดัชนีของตนจุ่มน้ำในจอกแก้วบนโต๊ะใกล้เตียงลากยาวไปที่ร่องบั้นท้ายแล้วหยุดที่เตาหลอมสีอ่อนของชลันธร
“อ๊ะ!!...ท่านพี่!!” ชลันธรถอนปากออกแทบทันใดยามที่ถูกนภนต์ใช้นิ้วลูบวนปากทางสีสดแล้วสอดเข้าไปในกายทีละนิ้วจนเป็นสาม 
“อ่ะ…อ่า…อ่า” ชลันธรครางกระเส่าเมื่อดัชนีทั้งสามขยับเข้าออกบ้างก็หมุนวน ตาเรียวช้อนตามองคนรักหยาดเยิ้มจนนภนต์อดไม่ได้ที่จะจุมพิตที่หน้าผากเนียน
“แม้ดาบพี่จะตีเสร็จเป็นรูปร่างแต่พี่นั้นอยากจะหลอมมันกับไฟในกายน้องยิ่งนัก” รอเวลาจนเห็นสมควรด้วยผนังนุ่มเริ่มตอดรัด นภนต์จึงหยอดคำหวานพลางจับชลันธรให้นอนคว่ำคุกเข่าไว้
“อ๊า..ท่านพี่!!..เจ็บ..อ่ะ” ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกหากเรื่องกามศึกระหว่างทั้งคู่ก็หาได้เกิดขึ้นเลยหลังจากที่นภนต์ขับพิษนาครักษาร่างบาง จึงไม่แปลกที่ชลันธรจะร้องออกมาหางตามีเม็ดน้ำใสซึมเล็กน้อย นภนต์รู้ว่าดาบของตนนั้นทำคนรักเจ็บจึงได้จูบซับลงบนแผ่นหลังเป็นการปลอบประโลม
“ชลันธร…พี่รักเจ้า” นภนต์โน้กระซิบสวาทรักให้ชลันธรชื่นใจ มือข้างนึงรั้งเอวบางไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ขยับแก่นกายให้ชลันธรอ่อนไหวพาให้ลืมเจ็บ จากนั้นจึงเริ่มกระแทกสะโพกตนส่งดาบเข้าออกในเตาหลอม
“อ่า..อะ..อ๊ะ..อ๊า”
“อืม..”
นภนต์กระแทกกายไม่มีเว้นพักเว้นหยุดจนร่างของชลันธรโยกไปด้านหน้า ความเจ็บที่ได้รับก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสม และวาบหวิวเสียจนชลันธรจิกเล็บเข้ากับภูษาที่ปูเตียงจนยับยู่ยี่ กระนั้นนภนต์ก็ไม่ปรานียังคงส่งดาบเข้าฟันจ้วงแทง
“อ่า..า…ท่านพี่นภนต์”
“เจ้าชอบหรือไม่เล่า..อ่า”
“ชอบ..อืม…อ่ะ..” เสียงหวานตอบตามความจริงในเมื่อบัดนี้ได้รับการปรนเปรอถึงสองทาง
“เหวอ…ท่านพี่จักทำอันใดข้า”
ชลันธรร้องเหวอด้วยความตกใจอยู่ดีๆ นภนต์ก็กอดเอวตนแล้วรัดให้ลุกนั่งเอนพิงกายทั้งที่ร่างกายยังคงเชื่อมกัน นภนต์ยิ้มกริ่ม…ใครเล่าจะให้เจ้ารับความสุขโดนยมิต้องทำอันใด…
“หากเข้าชอบจงขยับกายตีดาบพี่ให้หลอมเหลวทีเถิด” นภนต์เอ่ย ชลันธรหน้าขึ้นสีทั้งโมโหทั้งอายแต่เหนือสิ่งใดความรู้สึกค้างคาและแรงราคะมีมากล้นยิ่งกว่า สุดท้ายชลันธรก็เป็นฝ่ายเข้าหาคมดาบของแม่ทัพหลวง
“อ๊า…อ่า…อะ..อ๊า”
‘จุ๊บ..’
ชลันธรเริ่มค่อยๆ โยกกายขย่มแก่นกายใหญ่โดยปล่อยให้อารมณ์นำพาไป นภนต์เองนั้นมิได้นั่งเปล่าเทพหนุ่มซุกไซ้คอขาว ทั้งขบเม้ม ดูดดุน จนเป็นรอยแดงลามไปถึงหลังใบหู ไหนมือที่ข้างหนึ่งคอยเขี่ยสะกิดยอดอก อีกข้างคอยนำพาความสุขให้กลางกายเล็ก
“ท่านพี่...ข้าเหนื่อย..อื้อ..กายข้าก็ใกล้..แล้ว…” ชลันธรจวนเจียนใกล้ถึงฝั่ง นภนต์จึงขยับสะโพกสวนรักกายบาง อย่าว่าแต่ชลันธรเลยนภนต์เองมิอาจสามารถทนต่อแรงรัดภายในยามที่ปลายดาบกระแทกตรงจุดกระสันได้
“อ่า…อ่ะ..ท่านพี่..ข้ารักท่าน…อ่า..ท่านพี่นภนต์”
“พี่ก็รักเจ้า…ชลันธร…อ่า..รัก..รักเจ้า”
“อ๊า…”
ชลันธรปลดปล่อยความสุขสมหลั่งไหลออกมาเป็นสายธารสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนหน้าท้อง ฝ่ายนภนต์เองปลายดาบถูกหลอมจนมีน้ำโลหะหลั่งออกมาในกายคนรัก
“พี่รักเจ้า…ชลันธร” นภนต์บอกรักคนงามที่อ่อนเพลียเสียจนอิงศีรษะพิงอกแกร่งของตน
“ข้าก็รักท่านพี่” ชลันธรยิ้มรับและตอบกลับ  ทั้งสองพร่ำบอกรักกันมิรู้จักเบื่อ  หากแต่ชลันธรต้องหุบยิ้มเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“หากเจ้ารักพี่...ถ้าเยี่ยงนั้นพี่ขอทำรักเจ้าอีกรอบจะได้หรือไม่...” นภนต์ยังมีความต้องการอีกครั้ง จึงร้องขอคนรักให้คลายกำหนัดตนอีกสักรอบ
“อื้อ…ท่านพี่!!..ไม่แล้ว ข้าเหนื่อยแล้ว...” ชลันธรปฏิเสธ
“มิได้หรือคนดี...พี่ขออีกรอบเดียวเท่านั้น...”  นภนต์ยังคงอ้อนขอร้องให้ชลันธรร่วมรักกับตนอีกครั้ง
“ก็ได้...” กายบางสบมองแววตาเทพหนุ่มหยุดคิดเพียงครู่หนึ่ง ด้วยมิทนเสียงออดอ้อนจึงพลางตอบตกลง ชลันธรปล่อยให้จิตใจที่ลอยได้ในยามนี้นั้นนำพา  ใจหนึ่งก็คิดหากเทพีปัณฑารีย์ได้ยินเสียงสัปดลนี้เสียหน่อยคงจะเป็นการดีไม่ใช่น้อย...ชลันธรจึงตั้งใจเปล่งเสียงให้ร้องดังกว่าศึกรักครั้งเมื่อครู่  ซ้ำยังพูดเชิญชวนในนภนต์ทำรักตนรุนแรงอีกด้วย... เล่นเอานภนต์นั้นลุ่มหลงกายนี้อย่างหมดใจ ตั้งใจตอบรับด้วยความรักที่รุนแรงเช่นกัน